"กินมันแกว กินมันแกว กินแล้วตดใส่แมว แมวเป็นลม แมวเป็นลม เอายาดมให้แมว...เฮ้"
เพลงนี้ลูกชายผมร้องทวนซ้ำไปซ้ำมาหลายรอบ หลังจากที่เขาออกจากร้านอาหารแห่งหนึ่ง เรื่องเกิดขึ้นในร้านอาหารเมื่อลูกชายผมไปทานข้าวกับลูกพี่ลูกน้องของเขารวมทั้งเพื่อนที่โรงเรียนของลูกพี่ลูกน้องคนนั้นด้วย แม้ว่าลูกชายผมจะอายุน้อยที่สุดในกลุ่ม แต่เมื่อเขาเห็นพวกพี่ๆ เล่นอะไรกัน เขาก็อยากมีส่วนร่วมเล่นบ้าง ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อเขาไม่ได้รับอนุญาตให้ร่วมเล่นด้วย พอถึงเวลาที่ผมต้องพาลูกกลับบ้านแต่พวกพี่ๆ ยังไม่กลับ ยังคงเล่นกันอยู่ ผมสังเกตเห็นว่า ลูกชายผมนิ่งไป ไม่ว่าใครจะเรียกให้กลับบ้านก็นิ่งเฉยและไม่มีการตอบสนองใดๆ พอดีไม่รู้วันนั้นผมเป็นอะไรผมคอยสังเกตลูกผมอยู่ซักพัก รู้ได้เลยว่าลูกผมต้องมีอะไร ผมเข้าไปเรียกเขากลับเป็นคนสุดท้ายแต่ผมเอามือเข้าไปวางบนบ่าเขาเบาๆ ก่อน ซักพักเขาก็หันมายกมือเป็นสัญญาณว่าให้ผมอุ้มเขา ผมก็อุ้มเขาขึ้นมาเลย พอเขากอดบนตัวผมเขาก็เริ่มทำปากเหมือนพ่นน้ำลายใส่พวกพี่ๆ ใส่ทุกคน ใส่ร้านอาหาร (อาการนี้เขาจะทำเวลาไม่พอใจใคร) จากนั้นพอขึ้นรถ เขาก็แหกปากร้องเพลงนี้หลายรอบตลอดทางบนรถจนกลับถึงบ้าน คืนนั้นก่อนนอนผมมีโอกาสคุยกับลูก เพราะรู้สึกว่าเขาปกติดีแล้ว ผมถามเขาถึงเรื่องที่ร้านอาหาร เขาบอกว่ามีคนบอกเขาว่า "ภูรินท์อ่อน" ซึ่งเขาโกรธกับคำนี้มาก เพราะเขาไม่ได้อ่อนอย่างแน่นอน และยังบอกด้วยว่าเกลียดลูกพี่ลูกน้องเขาแล้ว ผมถามต่อว่าพอภูรินท์ได้ยินว่าอ่อนแล้วมันยังไงเหรอ เขาตอบว่า "รู้สึกเหมือนมีคนตดใส่หน้า" ฟังเสร็จผมล่ะทึ่งลูกผมจริงๆ ว่าช่างบรรยายได้เห็นภาพ เห็นอารมณ์จริงๆ และเห็นความเชื่อมโยงของเพลงนี้แล้ว การตะโกนร้องเพลงกินมันแกวฯ ดังๆ ผมว่าน่าจะเป็นการระบายอารมณ์แบบหนึ่งของเด็ก ซึ่งผมโอเคนะกับวิธีนี้ของเขา ซักพักผมก็ถามเขาต่อว่าพอเวลาผมจับที่บ่าเขา เขารู้สึกอย่างไร เขาพูดประมาณว่าเหมือนป่าป๊ารู้ว่าภูรินท์รู้สึกอะไรอยู่ ผมฟังแล้วรู้สึกปลื้มเป็นที่สุดครับ ปลื้มที่เราคอนเนคกับลูกได้ และปลื้มที่ลูกพูดบรรยายความรู้สึกมาได้ขนาดนี้ จากนั้นเราก็คุยกันต่ออีกซักพัก รู้สึกว่าเขาเล่าให้ผมฟังด้วยว่าเขาฝันว่าอะไรบ้าง ซึ่งความฝันที่เขาจำได้จะเป็นความฝันที่เขากำลังเล่นและอยู่ในช่วงเวลาแห่งความสนุกสนาน ถอดบทเรียน ช่วงขณะที่ผมเอามือไปจับบ่าลูกชายที่ร้านอาหารตอนนั้นผมนึกถึงเรื่องการคอนเนคในบท Connect and Redirect ของหนังสือ A Whole Brain Child ที่อาใหญ่ Wisit Wangwinyoo มาพูดถึงกันในวาระต่างๆ ครับ ซึ่งใช้สมองซีกขวาด้านอารมณ์ความรู้สึกเชื่อมต่อกับลูกก่อนโดยยังไม่สนใจเรื่องเหตุและผล จากนั้นพอเขาปกติผ่อนคลายดี พร้อมพูดคุยแล้ว ก็ค่อยหย่อนคำถามลงไปให้เขาพูดสถานการณ์นั้นออกมา เพื่อช่วยคลี่คลายความทรงจำเรื่องนี้ไปด้วย พอตอนเช้าปรากฏว่าลูกชายผมเขาขออนุญาตไปเล่นที่บ้านลูกพี่ลูกน้องเขา คนที่เขาพึ่งบอกผมเมื่อคืนว่าเขาเกลียดนั่นเอง อ่านกลยุทธ์ Connect and Redirect อย่างละเอียดได้ที่https://www.facebook.com/notes/10152194843373241/ พ่อกร 9 ก.พ. 58
0 Comments
Leave a Reply. |